แท้จริงแล้ว อาถรรพ์ความรัก​ 7 ปี สาเหตุที่ทำให้คู่รักต้องเลิกกัน คืออะไร


feature-image_singlepost-แท้จริงแล้ว อาถรรพ์ความรัก​ 7 ปี สาเหตุที่ทำให้คู่รักต้องเลิกกัน คืออะไร

พอเอาเข้าจริงความรู้สึก ความคิดคนเราเปลี่ยนไปได้ตลอด เมื่อกี้คิดถึง ตอนนี้เฉย ๆ เมื่อวานอยากให้เขากลับมา วันนี้ไม่ต้องการเขาอีกแล้ว ในเมื่อเปลี่ยนใจใครไม่ได้ จะให้เปลี่ยนตัวเองก็ไม่ง่าย บทสรุปของคู่รักที่ความรักถึงทางตันก็คือ การเลิกรา แต่ทว่าทำไมต้องมาเลิกกันในช่วงปีที่ 7 ด้วยล่ะ หรือว่านี่จะเป็นเลข อาถรรพ์ความรัก ที่น่ากลัวของคนมีคู่ แล้วสาเหตุมันเกิดจากอะไร ทั้งนี้ความรัก 7 ปี เป็นตัวเลขที่ต้องระวังจริงหรือไม่ Haihuayonline จะพาไปหาคำตอบ รวมถึงวิธีการแก้ไข พร้อม ๆ กันที่นี่!!

สารบัญ

ความเชื่อเรื่อง อาถรรพ์​ความรัก​ 7 ปี

อาถรรพ์​ความรัก​ 7 ปี

เมื่อความรักเบ่งบานมาจนถึงปีที่ 7 คู่รักหลาย ๆ คู่มักจะมีเหตุที่ต้องตัดสินใจแยกทางกันไป สังเกตง่าย ๆ จาก คู่รักดารา ที่ตอนแรกเราเห็นว่ารักกันดี แต่พอคบกันร่วม ๆ 7 ปี กลับประกาศเลิกราจนเป็นที่ฮือฮาสะเทือนวงการมาแล้วไม่น้อย 

ชาวต่างชาติเลยนิยามความรัก 7 ปีเอาไว้ว่า “7- years itch” หมายถึง “คัน” อาการคันหลังใช้ชีวิตร่วมกันมา 7 ปี บรรยายชีวิตแต่งงานที่เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง สามีภรรยาเริ่มระหองระแหง และมีแนวโน้มจะนอกใจได้ 

โดยมีสถิติของคู่แต่งงานที่จะหย่ากันในปีที่ 7 ถึง 50% รวมถึงทฤษฎีที่ว่าด้วยพฤติกรรม ความคิด ความรู้สึกของคนเราที่จะเปลี่ยนแปลงในทุก 7 ปี ซึ่ง “รูดอล์ฟ สไตเนอร์” (นักจิตวิทยาและนักมนุษย์ปรัชญาชื่อดัง) ได้รวบรวมข้อมูล สัญญาณรักร้าวอาถรรพ์เลข 7 เอาไว้ดังนี้

  • เริ่มเบื่อ เริ่มรำคาญ ที่จะต้องทนกับนิสัยของอีกฝ่าย 
  • ทำอะไรร่วมกันน้อยลงจนผิดสังเกต
  • ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งคู่ชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่า
  • ความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันค่อย ๆ หายไป
  • เงียบใส่กันจนเป็นเรื่องปกติ
  • มีแฟนมีคนรัก แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวคนเดียว ไม่มีใคร
  • เริ่มมองคนอื่น เปิดใจให้คนอื่น ๆ เข้ามา
  • แพลนแต่งงานที่เคยวาดฝันไว้ เงียบหาย

เลขอาถรรพ์ ความรัก 

เลขอาถรรพ์

หากพูดถึง ความเชื่อเรื่องตัวเลข นั้น บอกเลยว่า ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ต่างก็มีความเชื่อในเรื่องของศาสตร์และ ความหมายของตัวเลข  รวมไปถึง เลขมงคล และ เลขอัปมงคล เช่นเดียวกัน เพียงแต่อาจมีความแตกต่างกันไปตามประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม และความเชื่อของแต่ละที่

แต่โดยรวมแล้วตัว เลขอาถรรพ์ความรัก ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด มักเชื่อมโยงกับ เลขอาถรรพ์ 3, 5 และ 7 อยู่บ่อยครั้ง ฉะนั้นแล้วตัวเลขไม่ได้มีไว้เพียงคิดคำนวณ แต่ยังมีความหมายลึกลับแฝงเร้นอยู่ เราไปดูความหมายโดยรวมของแต่ละหมายเลขกัน ว่าสื่อถึงอะไรได้บ้าง ดังนี้

เลข 3 

สำหรับคู่รักที่คบกันมาได้เข้าสู่ปีที่ 3 นั้น ถือว่าคบกันมาได้สักระยะ ผ่านช่วงโปรโมชั่นมาแล้วเรียบร้อย คุณเริ่มจะได้เห็นข้อเสียของกันและกันบ้าง มีนิสัยบางอย่างของอีกฝ่ายที่เราไม่ชอบโผล่ออกมา จนทำให้เริ่มรู้สึกว่า มันไม่ใช่ ส่งผลอาจทำให้เกิดปากเสียงกัน ซึ่งคู่ไหนที่ไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ก็ต้องลงเอยด้วยการแยกทางกันไป แถมยังเชื่อกันอีกว่า เลข 3 นี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักต้องเจอมือที่สามเข้ามาช่วงชิง จนทำให้ต้องเลิกลาในที่สุด

เลข 5

ในศาสตร์แห่งตัวเลข 5 เป็นเลขนำโชคของการแต่งงาน แต่นักจิตวิทยาเชื่อกันว่าคู่รักที่คบกันมาได้ 5 ปี แน่นอนว่าคุณได้ผ่านช่วงที่ปรับจูนความเข้าใจกันมาแล้วในระดับหนึ่ง ถ้าเข้าใจกันมากขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไป แต่หากต่างฝ่ายยังทำอะไรบางอย่างที่อีกฝ่ายไม่ชอบอยู่เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ คุณจะเริ่มเบื่อ เริ่มรำคาญ ที่จะต้องทนกับนิสัยของอีกฝ่าย รู้สึกว่าทำไมต้องอดทน และอยากยุติความสัมพันธ์ลงซะดื้อ ๆ

เลข 7

มีการพูดถึงทฤษฎีด้านความรักและความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักที่ตรงกับเลข 7 ว่า หากใครที่ได้คบหาเป็นคู่รักกันจนครบเวลา 7 ปีแล้ว ยังไม่แต่งงานก็มักจะลงเอยด้วยการเลิกรา หรือหากแต่งงานกันสร้างครอบครัวกันไปแล้ว ก็ต้องระวังขาเตียงสั่นคลอนจนตามมาด้วยการหย่าร้างในปีที่ 7 เพราะมันรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีความเคยชินในการใช้ชีวิตร่วมกัน จนทำให้ความสัมพันธ์หยุดอยู่กับที่ไม่พัฒนา เข้าสู่จุดอิ่มตัว และมักจบความสัมพันธ์ในปีที่ 7 นั่นเอง

สาเหตุที่ทําให้เลิกกัน ของ อาถรรพ์ความรัก 3,5,7 ปี

ช่วงเวลา 3,5,7 ปี ดังกล่าวนี้ ถือเป็นช่วงความรักที่คบกันมาได้ซักระยะ คุณเริ่มจะได้เห็นข้อเสียของกันและกันมากขึ้น ปรับความเข้าใจอย่างไรก็ยังไม่ลงลอย บางคู่อาจเบื่อหน่ายหรือเริ่มมองหาตัวเลือกใหม่ ๆ ซึ่งลองมาดูปัญหาที่มักจะเจอส่วนใหญ่ จนเป็นเหตุที่ต้องทำให้เลิกรากันไป ได้แก่

มีความเกรงใจ ให้เกียรติกัน ลดน้อยลง

เป็นเรื่องธรรมดามากที่ทุกคนต้องเอาแต่ใจตัวเองกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าใครจะเอาใจตัวเองมาก หรือน้อยเท่านั้น และด้วยความที่คบกันมานาน ความเกรงใจกลับลดน้อยลง และความคาดหวังกลับเข้ามาแทนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ 

คุณหวังที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ทำให้บางครั้งคุณอาจจะเป็นตัวเองมากเกินไป จนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายไปอย่างไม่รู้ตัว หรือไม่ค่อยจะให้เกียรติอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าการไม่เกรงใจแบบนี้ หากมันกลายเป็นความเคยชินเมื่อไหร่ ก็จะตามมาด้วยความหมดรัก หมดศรัทธาในกันและกันอย่างไม่ทันตั้งตัว

เริ่มมองเห็นข้อเสียกันมากขึ้น

ช่วงโปรโมชั่นจีบกันใหม่ ๆ อะไรก็ดีไปหมด ต่างคนต่างหยิบยื่นแต่ข้อดีให้อีกฝ่าย พยายามทำให้อีกฝ่ายประทับใจ พอเวลาผ่านไปได้ซักระยะ หรือคบกันมานาน มันทำให้รู้ไส้รู้พุงกันทุกอย่าง เริ่มมองเห็นเรื่องแย่ ๆ ของอีกฝ่าย บางเรื่องก็ปล่อยผ่านได้ แต่บางเรื่องก็กระทบต่อความสัมพันธ์ ซึ่งหากไม่รู้จักปรับตัว หรือยอมรับข้อเสียของกันและกันไม่ได้ ก็คงถึงทางตันที่จะจบความรักลง

สังคมและสิ่งแวดล้อมมีความเปลี่ยนแปลง

ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คนก็จริง แต่เราทุกคนต้องดำเนินชีวิตไปกับหลาย ๆ ปัจจัยที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรียนจบ เริ่มทำงาน เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ มีกิจกรรมใหม่ ๆ ทำ หรือเหตุผลอื่น ๆ ที่บอกเลยว่าความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการกระทำ ความรู้สึกนึกคิดของคนเราได้มาก เพราะถ้าหากอีกฝ่ายซึบซับสังคมใหม่ ๆ ไปแล้ว ส่วนอีกฝ่ายยังอยู่ในสังคมเดิม ๆ จะเริ่มรู้สึกได้ว่า เขาเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม ทำให้มีปัญหาตามมา

SEX น่าเบื่อ

ใครว่าเรื่องบนเตียงไม่สำคัญ การมีเซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและรักษาชีวิตคู่ คนอีกจำนวนไม่น้อย ช่วงแรก ๆ ก็หวือหวา ซู่ซ่า เวลาผ่านไปก็ค่อย ๆ ลดจำนวนครั้งลงไปเรื่อย ๆ หรือว่าไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นมาทำให้รู้สึกเร้าใจ บางคู่ปล่อยผ่านเป็นเดือนเป็นปี ก็ยังไม่มีอะไรกัน บางคู่ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนสุดท้ายก็กลายเป็นความหมางเมิงและความเบื่อหน่ายในที่สุด

เริ่มเปิดใจให้คนอื่นเข้ามา

สำหรับเหตุผลข้อนี้ มีสาเหตุมาจากทุก ๆ ข้อที่ผ่านมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็น นิสัย เซ็กซ์ สิ่งแวดล้อม หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่มักเป็นปัญหา จนทำให้รู้สึกเหนื่อยและเบื่อความสัมพันธ์เดิม ๆ ที่ไม่เติบโตแบบนี้อีกต่อไป จึงเริ่มหันไปสนใจอย่างอื่นแทนที่ทำให้รู้สึกดี มีความสุขมากกว่า บางคนอาจจะเริ่มชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่า หรือบางคนก็เริ่มเปิดใจให้กับคนอื่นได้เข้ามา ผลปรากฏสุดท้ายความรักก็ต้องจบลง เพราะมีคนอื่นที่คิดว่าดีกว่าเข้ามาแทนที่

5 วิธีป้องกัน อาถรรพ์ความรัก

ในเมื่อการมีความรักอาจจะไม่ยาก แต่จะทำอย่างไรในการรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้สิยากกว่า งั้นมาลองดูเคล็ดลับอะไรบ้างที่จะช่วยทำให้ความรักของคุณยั่งยืน ไม่มีวันหมดอายุ ดังนี้

ยอมรับในข้อดีข้อเสียและปรับตัว ทั้ง  2 ฝ่าย

หากคู่รักที่แต่งงานกันไม่ได้มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เข้ากันไม่ได้ ไม่ต้องรอถึง 7 ปีก็คงเลิกกันไปแล้ว เพราะช่วงที่คบกันเป็นแฟนกันเป็นช่วงที่ต้องเรียนรู้นิสัยใจคอ ทำความเข้าใจว่าต่างฝ่ายต่างมี ข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง ถ้าคุณมัวแต่มองหาข้อเสียของเขา คุณเองก็จะไม่มีทางเห็นส่วนดีของเขาเช่นกัน

อย่าปล่อยให้ความรักเป็นความเคยชิน

คู่รักที่แต่งงานกันมานาน หรือคบหาดูใจกันมานาน มักจะเผยนิสัยที่แท้จริงออกมาตามความเคยชิน ซึ่งความเคยชินนี่แหละที่จะเป็นตัวตัดสินว่าจะเลิกหรือไม่เลิก การที่คุณพากันอยู่แต่สถานที่เดิม ๆ บรรยากาศเดิม ๆ ไม่ยอมเปลี่ยนจะทำให้เกิดความเบื่อหน่าย 

ฉะนั้นอย่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นความเคยชิน ต้องรู้จักหาวิธีเติมความรักให้หวานชื่นอยู่เสมอ หากิจกรรมทำร่วมกันบ้าง ไปเที่ยวพักผ่อน หรือเว้นช่องว่างระหว่างกันให้อีกฝ่ายได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงแบบนี้จะช่วยทำให้ความรู้สึกกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง

หมั่นแสดงความรักความสำคัญอยู่เสมอ

คู่รักที่คบกันมานานมีแนวโน้มที่จะมีความรักในรูปแบบของ รักนะแต่ไม่แสดงออก ซึ่งบางคนอาจจะแสดงความรักด้วยการกระทำซะมากกว่า แต่คู่ไหนที่การกระทำไม่มี ไม่มีคำพูดบอกรักหรืออะไรเลยคงไม่ดีแน่ ๆ 

เพราะการแสดงความรักต่อกันทุกวัน และหมั่นบอกรักสม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ทำให้ความรักอันยาวนานไม่จืดจางลง หรือหากเขินที่ต้องพูดออกไปก็แสดงความรักอย่างการสัมผัส จับมือ กอด หอม ก็เป็นอะไรที่มีความหมายลึกซึ้งและเข้าใจง่ายโดยที่ไม่จำเป็นต้องพูด

มีปัญหาต้องหันหน้าคุยกัน เอ่ยคำขอโทษเมื่อเป็นฝ่ายผิด

การไม่พูดคุยกันให้รู้เรื่องหรือเคลียร์ปัญหาให้เข้าใจกันนั้น อาจลุกลามจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตมาแล้วหลายคู่ ฉะนั้นหากคุณรู้สึกเกินทนหรือว่าเขาทำผิดพลาดซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ มากเกินไป คุณควรเปิดใจพูดกับเขาไปเลยตรง ๆ แล้วช่วยกันปรับหาทางวิธีแก้ไข 

และที่สำคัญอย่ามัวถือทิฐิจนลืมนึกถึงจิตใจของอีกฝ่ายด้วย ในเมื่อรู้สึกว่าผิด การกล่าวขอโทษ ก็ไม่ควรที่จะทำให้เป็นเรื่องยากอะไร ขอเพียงเป็นคำขอโทษที่ออกมาจากใจ ไม่ใช่สักแต่พูดให้มันจบ ๆ ไป

สร้างเป้าหมายร่วมกัน

บางคู่เมื่อคบกันไปนาน ๆ ชีวิตเริ่มเป็นกิจวัตรประจำวันจนก่อให้เกิดความชินชา รู้สึกเฉย ๆ ต่อกันและกัน การตั้งเป้าหมาย หรือหากิจกรรมอะไรใหม่ ๆ เช่น ไปเที่ยวด้วยกัน เล่นกีฬาด้วยกันตั้งเป้าหมายหาอะไรทำร่วมกันสักอย่าง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะช่วยนำความรู้สึกดี ๆ นำคำว่า “เรา” ให้กลับมาอีกครั้งได้ 

เคล็ดลับ เสริมดวงความรัก ให้มั่นคง

วิธีเสริมดวงความรัก

เมื่อพูดถึงในเรื่องของความรักนอกจากที่เป็นการสมดุลในเรื่องของอารมณ์ การสมดุลในเรื่องของทัศนคติแล้ว ยังรวมถึง ดวงชะตา ที่อาจจะเกิดขึ้นจากดวงของคนทั้งสองคนนั้นอาจจะอ่อนแรง เพื่อทิ้งท้ายเรื่องราวของ อาถรรพ์ความรัก ในบทความนี้ เรามาดู ความเชื่อเรื่องความรัก​ กันดีกว่าว่ามี วิธีการทำบุญเสริมดวงความรัก ให้มั่งคงกันได้อย่างไรบ้าง 

โดย “หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา” หมอดูชื่อดัง บอกว่าฮวงจุ้ยที่เกี่ยวกับความรักนั้นอยู่ที่ ฮวงจุ้ยห้องนอน ซึ่งหากอยากให้ความรักสดใส ก็ต้องปรับแก้ในส่วนนี้ตามคำแนะนำ คือ

เตียงนอน และผ้าปูที่นอน 

  • ทิศทางของเตียงที่ดี และช่วยเสริมดวงความรัก ควรตั้งชิดกับผนัง และหัวเตียงเป็นแบบทึบ ไม่ควรมีลวดลายที่โปร่งทะลุ เตียงนอนไม่ควรตั้งไว้ลอยๆ ควรตั้งชิดผนัง ไม่ควรใช้หัวเตียงมีลวดลายที่โปร่งทะลุควรเป็นหัวเตียงแบบทึบจะดีที่สุด 
  • ส่วนผ้าปูที่นอนควรใช้สีแดง ชมพู หรือม่วง เพื่อกระตุ้นดวงความรักให้สดใส แต่ถ้าอยากให้ความรักมั่นคง ไม่มีความขัดแย้ง ให้ใช้ผ้าปูที่นอนสีครีม เหลือง และน้ำตาลอ่อน

โต๊ะเครื่องแป้ง

  • แนะนำว่าให้วางของใช้ตัวเองและของคนรักไว้บริเวณเดียวกัน เปรียบเสมือนกับการใช้ชีวิตร่วมกันที่สวยงาม

กระจก

  • ตามหลักฮวงจุ้ยกระจก สามารถที่จะลด หรือเพิ่มพลังให้กับคนในบ้านได้ หากติดกระจกในตำแหน่งที่เหมาะสมก็จะสามารถเพิ่มพลังให้กับบ้านได้ แต่หากติดในทิศทางที่ไม่เหมาะสม ระวังเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
  • โดยบริเวณทิศทางที่ห้ามวางกระจกเด็ดขาด คือ ทิศที่สะท้อนเห็นคนในกระจกเพราะนั่นหมายถึงจะมีอีกคนมาแทรกแซงความรักของคุณ

รูปถ่าย

  • ในห้องนอนควรจะมีรูปคุณและคนรัก หรือรูปครอบครัว อัดใส่กรอบตั้งเอาไว้บ้าง เพื่อเป็นการกระตุ้นความรักให้อบอวลไปทั่วห้อง

สรุป

เรื่องความรักเป็นเรื่องที่ไม่สามารถนิยามทฤษฎีที่แน่ชัดได้ เพราะมีเรื่องของความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง และแม้จะไม่ได้มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ หรือสรุปไม่ได้ว่า อาถรรพ์ความรัก เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นกันหลายต่อหลายคู่ที่เลิกรากันไป ล้วนแต่ใช้เวลาของชีวิตคู่มาถึงช่วง 3,5,5 ปี ทั้งสิ้น 

แต่อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะถึงแม้สถิติของคู่แต่งงานที่จะหย่ากันในปีที่ 7 มีถึง 50% แต่มันก็ยังเหลืออีกตั้ง 50% ที่รอด ฉะนั้น ให้หวยออนไลน์ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกความสัมพันธ์ได้ผ่านบททดสอบความรักนี้ไปได้ด้วยดี

บทความแนะนำอื่นๆที่เกี่ยวข้อง