สังคมไทยนับวันข่าวฆาตกรรม ข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ๆ บางคนต้องสูญเสียคนรักและครอบครัว จากการฆ่าชิงทรัพย์ ข่มขืนฆ่า หรือโมโหร้ายแล้วฆ่าก็มี ประเด็นเหล่านี้เป็นที่ถกเถียงกันมากมายถึงการรับโทษในความผิดของฆาตกร ด้วยการต้องโทษประหารชีวิต วันนี้ Haihuayonline เลยจะพาทุกคนไปรู้จัก บุคคลที่มีความสำคัญต่อการประหารชีวิตที่เราเรียกว่า เพชรฆาตประหารนักโทษ นั่นเอง
สารบัญ
เพชรฆาตประหารนักโทษ คือใคร คัดเลือกจากอะไร
เพชรฆาต คือ เจ้าหน้าที่ ประหารชีวิตนักโทษ ที่ต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิต เพชรฆาตใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องมีการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมให้มาทำหน้าที่นี้
เพชรฆาต สมัยโบราณ
ในอดีต เพชรฆาตเป็นตำแหน่งพระราชทาน จะต้องมีการคำนวณดวงชะตาของเพชรฆาตอย่างละอียด เพราะถือว่าการฆ่าคนนั้นเป็นกรรมหนักรุนแรง ต้องหาคนที่มีดวงคุ้มตนเอง ไม่อย่างนั้นเพชรฆาตอาจจะอายุสั้นได้ นอกจากนี้คน ๆ นั้น ต้องเป็นคนที่มีความรู้เรื่องดาบเป็นอย่างดี ต้องมีความแม่นยำในการลงดาบด้วย อีกทั้งเป็นคนที่มีวิชาอาคม เพื่อป้องกันตนเองจากผีตายโหงทั้งหลาย ที่ถูกเขาปลิดชีพลงไป
ส่วนอาวุธของเพชฌฆาตก็คือ “ดาบ” ซึ่งดาบน้ำดีคือ ‘เหล็กน้ำพี้’ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นการสร้างดาบเพชฌฆาตต้องถือ "ฤกษ์เพชฌฆาต” เพื่อให้ดาบนั้นคมและศักดิ์สิทธิ์
เพชรฆาตประหารนักโทษ ยุคปัจจุบัน
ทว่าการประหารชีวิตนั้นก็พัฒนามาเรื่อย ๆ จากเมื่อก่อนที่ตัดศีรษะ ก็เปลี่ยนมาเป็นยิงเป้า และทุกวันนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นการประหารชีวิตด้วยการฉีดสารพิษเข้าสู่รางกาย โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นคนทำหน้าที่นี้
ขั้นตอนการประหารชีวิตในปัจจุบัน
ส่วนขั้นตอนการฉีดยาประหารชีวิตก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ่อนอะไร เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็จะนำตัวนักโทษมามัดไว้ที่เตียง เพื่อป้องกันการดิ้นรนและขัดขืน จากนั้นจะต่อสายน้ำเกลือ เข้ากับแขนของนักโทษ โดยสายน้ำเกลือนี้จะมีปุ่มกดฉีดยา 3 ปุ่มหรือ 3 เข็ม ได้แก่
- เข็มที่ 1 ยานอนหลับ
- เข็มที่ 2 ยาคลายกล้ามเนื้อ
- เข็มที่ 3 ยาหยุดการเต้นของหัวใจ
อาศัยเจ้าหน้าที่หรือเพชรฆาตด้วยกันทั้งหมด 3 คน และแต่ละคนจะไม่รู้ว่าตนเองกดฉีดยาปุ่มไหน เพื่อป้องกันการรู้สึกผิดต่อการฆ่าคนของเพชรฆาตนั่นเอง
เพชรฆาตประหารนักโทษ ฆ่าคนบาปไหม
จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่า การฆ่าคนนั้นเป็นบาปหนัก ทำให้การคัดเลือกคนที่มาทำหน้าที่นี้ต้องมีรายละเอียดหลายขั้นตอน ซึ่งก็เข้าใจได้ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า การที่คนทำหน้าที่สังหารนักโทษนั้นเป็นบาปหรือไม่ ในเรื่องนี้ทางพระอาจารย์พรพล ปสันโน เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 ท่านเคยกล่าวไว้ว่า… “ การฆ่า ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์นั้นย่อมบาปอย่างแน่นอน เพราะถือว่าทำผิดศีลข้อที่ 1 แต่จะบาปมากหรือน้อยต้องดูที่เจตนาเป็นองค์ประกอบทั้งนี้มีหลักในการวินิจฉัยดังนี้ คือ
- ต้องเป็นสัตว์มีชีวิต คือมนุษย์หรือสัตว์เดียรัจฉาน
- รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
- มีจิตคิดจะฆ่า
- พยายามฆ่า
- สัตว์ตายจากการพยายามฆ่า
ถ้าครบองค์ประกอบศีลจึงจะขาด ดังนั้น อาชีพเพชฌฆาตจะบาปมากหรือน้อยนั้นจึงอยู่ที่เจตนา ถ้าทำไปตามหน้าที่โดยไม่มีอคติ ไม่ได้ต้องการเอาชีวิตเขา ก็นับเป็นบาปเบาแต่ถ้าใจอาฆาตพยาบาท หมายจะเอาชีวิตเขาให้ได้ก็นับเป็นบาปหนัก ”
นอกจากนี้ท่านยังเล่าเสริมถึงเรื่องราวในสมัยพุทธกาลว่า… มีเพชฌฆาตคนหนึ่งชื่อว่า นายตัมพทาฐิกะ ทำหน้าที่ฆ่าโจรตามคำสั่งของอมาตย์นานถึง 55 ปี กาลเวลาผ่านไป เขามีโอกาสได้ฟังธรรมจากพระสารีบุตรจนบรรลุโสดาปัตติมรรค เมื่อเสียชีวิตก็ยังได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต ดังนั้นคนที่กลับใจหยุดทำบาปและตั้งใจฟังธรรมก็มีโอกาสบรรลุธรรมได้เช่นเดียวกัน
คดีความผิดร้ายแรงที่อาจต้องโทษประหาร
สำหรับความผิดความผิดที่อาจจะถึงขั้นโทษประหารชีวิตตามกฎหมายของไทยนั้น มีดังนี้
- ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มาตรา 107 ผู้ใดปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์ ต้องระวางโทษประหารชีวิต มาตรา 109 ผู้ใดปลงพระชนม์พระราชินีหรือรัชทายาท หรือฆ่าผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษประหารชีวิต
- ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น
- ความผิดเกี่ยวกับเพศ มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม มาตรา 277ทวิ ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรคหนึ่ง หรือ มาตรา 277 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย
- ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาตรา 340 ผู้ใดชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ก้อนหินแร่ ที่ถูกค้นพบในบริเวณที่มีลักษณะคล้ายบ่อขนาดใหญ่ มีสีน้ำตาลปนดำ คล้ายคลึงกับหินดินดาน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3-60 นิ้ว และมีน้ำหนักตั้งแต่ 200 กรัมจนถึง 20 กิโลกรัม
ซึ่งเมื่อนำหินดังกล่าวมาเผาด้วยความร้อนสูง 1,000 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะมีแร่ไหลออกมาเป็นของเหลวแล้วจับตัวเป็นก้อนเมื่อถูกความเย็น โดยแร่สีดำทึบแสงเหมือนกับนิลนั้นเรียกว่า “ไหลดำน้ำพี้ หรือเหล็กน้ำพี้” ซึ่งพื้นที่ที่ถูกพบมากที่สุดดก็คือ จ.อุตรดิตถ์ นั่นเอง
ศีลข้อที่ 1 ในหลักของพระพุทธศาสนา โดยมีข้อห้ามคือเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งปวง รวมถึงการทำร้ายสัตว์ หรือมนุษย์ด้วย แม้แต่คิด หรือวางแผน ก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้แล้ว
สรุปส่งท้าย
แม้ว่าคดีต้องโทษประหารชีวิตทุกวันนี้จะไม่ได้มีมากมายและวิธีการประหารที่ไม่ได้โหดร้ายทารุณเหมือนสมัยก่อน เป็นเพียงแค่การฉีดยาเข้าน้ำเกลือ เท่านั้น แต่ถ้ามองในฐานะเพชรฆาต เขาก็คงไม่อยากต้องฆ่าใครเหมือนกัน เพราะการฆ่าคนนั้นถือเป็นบาปหนา และตัดสิทธิ์ให้คน ๆ หนึ่งหมดลมหายใจ
สุดท้ายอยากฝากถึงแฟนคลับทุกคน ให้คิดดี พูดดี ทำดี อย่าได้ไปทำชั่วจนถึงขั้นทำให้ใครต้องเสียชีวิต เพราะใคร ๆ ก็รักชีวิตของตนเองทั้งนั้น การทำให้คนๆ หนึ่งต้องตาย สร้างความเสียใจให้กับคนรอบตัวเขาและตัวเขาเป็นอย่างมาก ถึงเวลานั้นจะมาเรียกร้องให้ศาลไม่ตัดสินประหารก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะตอนฆ่าไม่เห็นจะเห็นใจเขาบ้างเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง