เคยไหม เวลาที่คุณเดินผ่าน คลองในกรุงเทพฯ แล้วได้กลิ่นเน่าเหม็น ลอยปะทะเข้าจมูกทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน เรามากำจัดความทรงจำแย่ ๆ เหล่านั้นให้หมดไป และมาเริ่มสร้างความจำใหม่ให้กับคูคลองของกรุงเทพมหานครกัน ที่แห่งนี้ก็คือ คลองโอ่งอ่าง หลังจากได้มีการปรับภูมิทัศน์สวยงามจนได้รางวัลระดับโลก เป็นที่น่าภาคภูมิใจกันไปแล้ว คลองโอ่งอ่างยังกลายมาเป็นแลนด์มาร์ค ที่เที่ยวกรุงเทพ แห่งใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย
วันนี้ Haihuayonline จึงถือโอกาสอยากพาทุกคนไปสัมผัสความสวยงามทางศิลปะและวัฒนธรรม พร้อมพาเยี่ยมชม สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพ ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงรอบคลองโอ่งอ่าง เหมาะกับการมาเดินเที่ยวเล่น ไหว้พระขอพร เป็นที่สุด อย่ามัวรอช้า ตามมาเช็คอินกันเลยดีกว่า
สารบัญ
ถนนคนเดิน คลองโอ่งอ่าง แลนด์มาร์คใหม่ ใจกลางกรุงเทพ
ทำความรู้จัก คลองโอ่งอ่าง
หลายคนอาจจะสงสัยว่าคลองโอ่งอ่างนี่มันคือที่ไหนกัน ถ้าเรียกกันให้เข้าใจก็คือ ย่านสะพานหัน หรืออีกชื่อคือ สะพานเหล็ก ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นเอง ประวัติแต่เดิมของคลองแห่งนี้ คือเป็นคลองขุดตั้งแต่สมัยสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ เชื่อมต่อกับคลองบางลำพูตรงสะพานผ่านฟ้า สิ้นสุดที่เชิงสะพานพระปกเกล้า ก่อนจะไหลออกแม่น้ำเจ้าพระยา
สมัยขุดคลองนี้ใหม่ ๆ ย่านนี้เป็นแหล่งค้าขายเครื่องปั้นดินเผาของทั้งชาวจีนและชาวมอญมาก่อน ต่อมาจะค่อย ๆ พัฒนามากลายเป็นย่านขายอาหารตอนกลางคืนและแหล่งขายปลาสวยงาม จนเมื่อปี พ.ศ. 2526 กรุงเทพฯจัดสัมปทานให้เช่าพื้นที่ว่างเหนือคลองโอ่งอ่าง โดยให้เป็นที่ค้าขายรองรับพ่อค้าแม่ค้าที่ย้ายมาจากคลองถม ทำให้ช่วงนั้นแทบไม่มีใครเคยเห็นหรือให้ความสำคัญกับคลองนี้อีกเลย
จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ทางกรุงเทพฯ อยากจะจัดระเบียบ ปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม เพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะแก่ประชาชนและเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป จึงเริ่มมีการก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์กันอย่างจริงจังจนเป็นคลองโอ่งอ่างโฉมใหม่ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะสวยได้ขนาดนี้ มองผ่านๆ แอบคล้ายคลองชื่อดังที่ประเทศเกาหลีเลยล่ะ เพราะมีต้นแบบมาจาก “คลองชองกเยชอน” (Cheonggyecheon) ที่อยู่ใจกลางกรุงโซล
สำหรับการตัดสินใจปรับเปลี่ยนคลองน้ำเน่ากลางเมืองให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะริมคลองที่มีน้ำใสสะอาดและมีต้นไม้สุดร่มรื่นของกรุงเทพในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจในความสำเร็จของโครงการพัฒนาคูคลองของกรุงเทพมหานคร อันเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ (มี.ค. 64) คลองโอ่งอ่าง ได้รับรางวัล 2020 Asian Townscape Awards จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme: UN-HABITAT) จนสามารถดึงดูดความสนใจของทั้งคนในประเทศและชาวต่างชาติ กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครในเวลาอันรวดเร็ว
ชิม ช้อป ใช้ แชะ @ถนนคนเดิน คลองโอ่งอ่าง
เมื่อเราทำความรู้จักคลองแห่งนี้กันไปแล้ว คราวนี้เราจะพาทุกคนไปชมบรรยากาศของ ถนนคนเดิน คลองโอ่งอ่าง แห่งนี้กัน โดยจะแบ่งออกเป็น 5 โซน รวมระยะทาง 750 เมตร ร้านค้ากว่า 261 ร้าน แต่ละโซนก็จะประกอบไปด้วย
- ชานแชะ (Creative Terrace) พื้นที่สร้างสรรค์งานศิลปะ Street Art จากศิลปินชื่อดัง ลานกิจกรรม (Activity Area) กิจกรรมแต้มสีโอ่งอ่าง ศิลปินเปิดหมวก ลานละเล่น (Playing Space)
- ชานช็อป (Shopping Terrace) พื้นที่ร้านค้าท้องถิ่น / สินค้าตามเทศกาล
- ชานวัฒนธรรม (Cultural Terrace) พื้นที่ร้านค้า ร้านอาหารเชิงวัฒนธรรม เชื้อชาติที่มีความหลากหลาย แขก จีน ไทย และร้านค้า DIY
- ชานชิม (Gastronomy Terrace) พื้นที่อาหารท้องถิ่น Street Food ร้านเครื่องดื่ม
- ชานเรือน (Community Terrace) พื้นที่สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกรถสุขา และพื้นที่กิจกรรมหน้าบ้านหน้ามอง
แถมล่าสุดยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ประจำคลองโอ่งอ่าง นั่นก็คือ การพายเรือคายัค ล่องชมความงดงามของคลองรอบกรุง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่จะมีการเปิดไฟประดับริมคลอง ทำให้คลองแห่งนี้ สวยงามระดับท็อปคลาสเลยทีเดียวเชียว
การเดินทางไป คลองโอ่งอ่าง
การในส่วนของการเดินทางแนะนำให้นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีสามยอด เดินออกมาทางฝั่งพาหุรัดไม่ไกลก็จะเจอกับสะพานดำรงสถิต ทางเดินเลียบคลองเปิด 24 ชั่วโมง ส่วนไฟประดับจะเปิดในช่วงหัวค่ำ หรือสามารถเปิดแมพเดินทางตามพิกัดนี้ >> https://goo.gl/maps/xANiA59vGDVz4pd38
6 ที่เที่ยวรอบคลองโอ่งอ่าง
นอกจาก คลองโอ่งอ่าง จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครแล้ว คลองแห่งนี้ยังปลุกฟื้นคืนชีพให้พื้นที่อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วย ไหน ๆ ก็พาทุกคนเดินทางไปยังย่านเก่าในกรุงเทพฯแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ อีก 6 แห่งรอบคลองโอ่งอ่างที่น่าไปเยือนไม่แพ้กัน ก็คือ
สวนสันติชัยปราการ
สวนสันติชัยปราการ เป็นสวนสาธารณะ ตั้งอยู่ในบริเวณป้อมพระสุเมรุ โบราณสถานเก่าแก่ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
พร้อมทั้งดำเนินการจัดสร้างพระที่นั่งขึ้นในบริเวณสวน เพื่อถวายเป็นถาวรวัตถุที่ระลึกแห่งพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสนี้ด้วย และได้รับพระราชทานชื่อว่า “พระที่นั่งสันติชัยปราการ” และ “สวนสาธารณะสันติชัยปราการ” ซึ่งมีความหมายว่า“มีประการที่เป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะของสันติภาพ”
ใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศสุดร่มรื่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บอกเลยว่าสวนสาธารณะแห่งนี้จะนำมาซึ่งความสงบภายในจิตใจให้กับคุณได้เป็นอย่างดี โดยคุณอาจจะเลือกวางแผนเดินทางมาที่นี่ก่อนหรือหลังไป คลองโอ่งอ่าง ก็ได้หมด เพียงแต่ สวนสันติชัยปราการ ปิดให้เข้าในเวลา 21.00 น.
การเดินทางไปยังสวนสันติชัยปราการ : รถเมล์สาย 3 , 6 , 9 , 30 , 32 , 33 , 53 , 64 , ปอ.6 ทางเรือโดย ท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา ลงเรือที่ ท่าพระอาทิตย์
วัดชนะสงคราม
วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร หรือที่เราเรียกกันว่า วัดชนะสงคราม แห่งนี้ ถือเป็นหนึ่ง วัดดังในกรุงเทพ ที่เก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา สร้างสมัยก่อนกรุงรัตรโกสินทร์ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสถาปนาวัดขึ้นมาใหม่ และรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายราชสามัญ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ทหารรามัญในกองทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ต่อมาเมื่อมีชัยชนะต่อกองทหารข้าศึกถึง 3 ครั้ง จึงได้ชื่อว่า “ชนะสงคราม”
สิ่งสำคัญภายในวัดชนะสงคราม คือ พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย เป็นพระประธาน มีพระนามว่า “พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดมบรมศาสดา อนาวรญาณ” ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ด้านการช่วยให้เอาชนะศัตรูและอุปสรรคต่าง ๆ เชื่อกันว่าหากมีโอกาสไปสักการะพระประธานในพระอุโบสถจะช่วยให้สามารถมีชัยชนะเหนือศัตรูทั้งปวง
การเดินทางไปยังวัดชนะสงคราม : รถเมล์สาย 33, 64, 65, ปอ. 3 , 32 , 33, 64, 65
วัดตรีทศเทพ
วัดตรีทศเทพ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สร้างขึ้นปีใดไม่ปรากฏหลักฐาน ทราบเพียงว่าพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธร ได้บริจาคทรัพย์และกำหนดเขตไว้จะสร้างวัด แต่ไม่ทันได้เริ่มก่อสร้างก็สิ้นพระชนม์ลงเสียก่อน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส จึงทรงรับทำการก่อสร้างวัดต่อมา แต่ยังไม่ทันได้สร้างวิหาร อุโบสถ และศาลาการเปรียญ ก็สิ้นพระชนม์ลงอีก
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) จึงทรงรับมาดำเนินการเอง สร้างจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2410 และพระราชทานนามว่า “วัดตรีทศเทพ” แปลว่า (ตรี (สาม) + ทศ (ผู้ชาย) + เทพ) วัดของเทพผู้ชายสามองค์ตามจำนวนของผู้สร้าง นั่นเอง
โดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสิ่งสำคัญภายในวัดตรีทศเทพ คือ พระพุทธนวราชบพิตร องค์พระประธานในพระอุโบสถ ขนาดหน้าพระเพลา 61 + 9 นิ้ว สูง 89 นิ้ว พระรัศมี 14 นิ้ว ฐานถึงบัง 19 นิ้ว เชื่อกันว่าหากได้ไปสักการะท่านจะคอยปกป้องคุ้มครองและขับไล่สิ่งอัปมงคลออกไปจากชีวิต
การเดินทางไปยังวัดตรีทศเทพ : รถเมล์สาย 33, 49, 516, ปอ. 56, 68 หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล MRT BLUE LINE
วัดบพิตรพิมุข
วัดบพิตรพิมุข มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ พระราชนัดดา ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่แล้วถวายเป็นพระอารามหลวงแด่รัชกาลที่ 1 ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระราชทานนามวัดนี้ว่า วัดบพิตรพิมุข เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่กรมพระราชวังบวรสถานพิมุขพระองค์นี้
สิ่งสำคัญภายในวัดบพิตรพิมุข มีมากมาย อาทิเช่น พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ,พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย, พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิสมัยทวาราวดี, พระเจดีย์ทรงลังกา เป็นต้น เชื่อกันว่าหากใครได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด โดยเฉพาะพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 จะมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้านของชีวิต และเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป
การเดินทางไปยังวัดบพิตรพิมุข : รถเมล์สาย 40, 43, 49, 85, 9 หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล MRT BLUE LINE
สะพานพุทธยอดฟ้า
สะพานพุทธยอดฟ้า หรือที่เราเรียกกันว่า สะพานพุทธ สถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์ครุ่งพี่ของ คลองโอ่งอ่าง เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมไปเดินเล่น หาของกิน และแวะถ่ายรูป แถมยังอยู่ติดริมน้ำเช่นเดียวกัน อีกทั้งสะพานพุทธแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
เป็นสะพานที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อปี พ.ศ. 2472 ด้วยพระราชดำริที่จะสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร
โดยมีพระราชดำริว่าควรสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งปัจจุบันอยู่ตรงปริเวณเชิงสะพาน และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมจังหวัดพระนครกับธนบุรีเข้าด้วยกัน เพื่อให้การคมนาคมติดต่อสะดวก ทั้งยังเป็นการขยายพระนครในสมัยนั้นอีกด้วย
เชื่อกันว่าหากใครมีโอกาสได้ไปกราบไหว้พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จะมีความเป็นเลิศในงานการปกครอง ปฏิบัติราชการเจริญรุ่งเรือง และมีครอบครัวเป็นปึกแผ่น
การเดินทางไปยังสะพานพุทธ : รถเมล์สาย 40, 7ก, 82, 85 , ปอ. 9 หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล MRT BLUE LINE
สำเพ็ง
คงไม่มีใครไม่รู้จัก สำเพ็ง ย่านการค้าชื่อดัง แหล่งค้าขายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและเป็นแหล่งค้าส่งที่สำคัญของประเทศเลยทีเดียว อยู่ใกล้กับเยาวราช ถือเป็นสถานที่สวรรค์ของนักช้อป และพ่อค้าแม่ค้าทั่วประเทศ โดยจะขายสินค้าราคาส่ง ทั้ง Gift Shop เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์งานประดิษฐ์ ต่างหู สร้อย และอีกมากมายหลายอย่าง รวมถึงกิน
ที่นี่มีร้านค้ามากมายหลากหลาย ตั้งอยู่บนสองฝั่งฟากถนน เปิดขายกันตั้งแต่เวลา 08:00 ถึง 17:00 น. ในเวลากลางวัน และในเวลากลางคืนตั้งแต่เวลา 23:00 น. จนล่วงเข้าสู่วันใหม่ในเวลา 01:00 หรือจนถึง 06:00 น. ในยามเช้า ใครที่อยากรับของมาขาย หรือยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี แนะนำให้ไปลองเดินสำรวจตลาดที่นี่ดู รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำมาหากินให้กับคุณได้ไม่ยาก
การเดินทางไปยังสำเพ็ง : รถเมล์สาย 4, 7, 8, 21, 37, 40, 56, 73, 85, 204, 507, 542 และ 529 หรือ MRTลงสถานีหัวลำโพง และต่อรถเมล์สาย 4, 7, 25, 40, 73, 85 และ 507
สรุป
ถ้าใครมีโอกาสได้เดินทางแวะเวียนไปแถวย่านเมืองเก่ากรุงเทพฯ ให้หวยออนไลน์ ก็แนะนำว่าห้ามพลาดไปเยี่ยมชมจุดพักผ่อนหย่อนใจใหม่ของชาวกรุงเทพฯ เดินเล่นเลียบคลองชมการประดับไฟในยามเย็นกับบรรยากาศชิล ๆ ณ คลองโอ่งอ่าง กันดู แล้วคุณจะลืมภาพคลองเน่าน้ำดำที่เคยเห็นไปได้เลยในทันที
มากไปกว่านั้น หากใครมีเวลา ก็สามารถจัดเป็น 1 DayTrip เที่ยวกับ 6 สถานที่รอบคลองโอ่งอ่างกันดูได้ นอกจากจะเป็นการเที่ยวถ่ายรูปชิค ๆ แล้ว ยังมีที่กิน ที่ ไหว้พระขอพร เรียกได้ว่า กิน เที่ยว ช้อป เสริมความเป็นสิริมงคลในชีวิต จบในบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นการเปิดมุมมองใหม่การเที่ยวแบบใหม่ ที่จะทำให้คุณรู้ว่ากรุงเทพฯของเรานั้นมันมีเสน่ห์มากจริง ๆ
บทความแนะนำอื่นๆที่เกี่ยวข้อง