นาทีนี้คงไม่มีอะไรน่าสะเทือนใจไปกว่ายอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ของประเทศไทยที่พุ่งขึ้นทุกวัน ข่าวคราวคนหาเตียงรักษาโควิด คนนอนตายที่บ้าน ตามท้องถนน เพราะไม่สามารถเข้าถึงการรักษา มีให้เห็นไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ราย หนำซ้ำภาครัฐยังไม่เร่งแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ประชาชนออกมาวิจารณ์ เรียกร้อง แต่รัฐกลับนิ่งเฉย เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประเทศชาติ เรียกว่ามาถึงวิกฤติที่ตกต่ำที่สุดของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ สถานการณ์แย่ขนาดที่ว่า นักการเมืองท่านหนึ่งออกมา นอน โลงศพ
ประชดการบริหารจัดการของรัฐบาล ว่าปล่อยให้ประชาชนนอนรอความตาย หาใช่นอนเพื่อสะเดาะเคราะห์ไม่ แอดจึงอยากหยิบยกประเด็นนอนโลงศพ มาดูว่ามีความเชื่ออะไรบ้างที่เกี่ยวกับโลงศพ และทำไมคนส่วนมากจึงนิยมไปนอนโลงศพ เพื่อสะเดาะเคราะห์
สารบัญ
ความเชื่อเกี่ยวกับ โลงศพ
จุดเริ่มต้นของโลงศพนั้นเกิดขึ้นจากความกลัวผีของคนสมัยโบราณ ที่ให้ผีหรือดวงวิญญาณกลับมาหาคนเป็นได้อีก โดยจุดเริ่มต้นของโลกศพมาจากทำเนียมของชาวสุเมเรียนในสมัยก่อน ที่จะฝังศพในตะกร้าสาน และมัดเท้ากับศีรษะ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาหาคนเป็น ต่อมาก็มีการพัฒนาโลงศพเป็นแบบต่าง ๆ และมีความเชื่อเกี่ยวกับโลงศพหลากหลายมาก ดังนี้
เคาะโลงศพคนตาย เรียกให้กินข้าว
ในงานศพ ลูกหลานจะเตรียมข้าวปลาอาหารใส่ถาดมาวางไว้ข้างโลง แล้วจุดธูปเท่าจำนวนอาหาร และธูปอีก 1 ดอกบอกกล่าวดวงวิญญาณ จากนั้นก็จะไปปักธูปที่กระถาง 1 ดอก ธูปส่วนที่เหลือก็ปักตามอาหารแต่ละชนิดที่เตรียมมา
เสร็จแล้วถึงเคาะโลงเรียกวิญญาณผู้ตายมาทานข้าว ไม่สามารถตอบได้ว่าคนตายจะได้กินอาหารที่เราเตรียมไว้ให้ไหมโบราณเขาถึงบอกว่าเมื่อยยมาที่พ่อแม่หรือคนที่เรารักยังมีชีวิตอยู่ให้หมั่นทำดีกัน อยากกินอะไรก็ให้กิน ดีกว่าตายไปแล้วค่อยมาเคาะฝาโลงเรียกกินข้าว
ห้ามแมวดำกระโดดข้ามโลงศพ
ห้ามแมวดำกระโดดข้ามโลงศพเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้ศพฟื้นขึ้นมาเป็นผีที่ดุร้าย และอาจไปทำร้ายผู้คนในหมู่บ้านได้ ส่วนอีกความเชื่อแมวดำนำโชค อีกอย่างหนึ่งเชื่อว่า แมวดำกระโดดข้ามศพใครจะทำให้วิญญาณไม่ได้ไปผุดไปเกิด กลายเป็นวิญญาณแร่ร่อน หลอกหลอนผู้คน แต่เหตุผลที่แท้จริงมีอยู่ว่า… การปล่อยให้แมวหรือสัตว์อื่น ๆ กระโดดข้ามโลงศพที่มีผู้เสียชีวิตอยู่ในนั้น ถือเป็นการไม่ให้เกียรติผู้ตาย ส่วนที่เขาเจาะจงไปที่แมวดำ ก็เพราะว่าแมวเป็นสัตว์ที่ซ่อนตัวเก่งยิ่งมีสีดำกลางคืนยิ่งมองไม่เห็น จึงต้องระวังแมวดำเป็นพิเศษนั่นเอง
ห้ามให้น้ำตาถูกโลงศพหรือหยดโดนศพ
คนที่เคยผ่านเหตุการณ์สูญเสียคนที่รักน่าจะเคยได้ยินความเชื่อนี้มาบ้าง เพราะน้ำตานั้นเป็นสื่อระหว่างคนกับวิญญาณ การที่คนเป็นร้องไห้เสียใจ เพราะคนตาย จนปล่อยให้น้ำตาหยดโดนศพหรือหยดลงโลง จะทำให้ผู้ตายเป็นห่วงหรือพะวง ไม่ยอมไปผุดไปเกิด บางที่ก็เชื่อว่าจะให้ให้เผาไม่ไหม้
โลงศพทุกใบมีเจ้าของอยู่แล้ว
ความเชื่อที่ว่าโลงศพทุกใบมีคนเป็นเจ้าของอยู่แล้วนั้น เป็นความเชื่อของเจ้าของร้านขายโลงศพ มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีผีเสื้อกลางคืนบินมาเกาะโลงศพ หรือได้ยินเสียงโลงศพดังลั่น เป็นเสียงที่ไม่มีที่มา เช้าวันต่อมา จะมีคนมาติดต่อซื้อโลงศพ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล
การนอนโลงศพ เพื่อสะเดาะเคราะห์
การนอนโลงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์เป็นอีกหนึ่งความเชื่อเกี่ยวกับโลงศพที่มีมาตั้งแต่อดีต และยังคงมีอยู่ในทุกวันนี้ มีการถกเถียงไปต่าง ๆ นานา ว่าพิธีกรรมดังกล่าวไม่น่าจะช่วยให้ชีวิตของคนยืนยาวได้ แต่เรื่องนี้ก็เป็นความเชื่อ และความสบายใจส่วนบุคคล โดยพิธีสะเดาะเคราะห์ด้วยการนอนโลงศพนั้น มีวิธีการดังนี้
ขั้นตอนการ นอนโลงศพสะเดาะเคราะห์
- อันดับแรกผู้ต้องการทำพิธีจะต้องเข้าไปนอนในโลงศพก่อน โดยจะต้องนอนหันหัวไปทิศตะวันตก และกลับหัวมาทิศตะวันออก
- จากนั้นพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจำนวน 4 รูป จะสวดบังสุกุลตายให้ผู้ที่นอนในโลงศพ
- เมื่อเสร็จจากการสวดบังสกุลตาย จากนั้นพระจะสวดบังสุกุลเป็น พร้อมให้ศีล ให้พรแก่ผู้ที่อยู่ในโลง
การทำบุญนอนโลงศพแล้วเปรียบเสมือนการแก้เคล็ดต่ออายุ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จะมีสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เสริมมงคลชีวิตให้บังเกิดโชคลาภเป็นทวีคูณ เสริมบุญบารมีให้ดีขึ้น และยังร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อซื้อโลงศพให้กับศพไร้ญาติด้วย
นอกจากนี้ขณะที่ได้ไปนอนข้างในโลงนั้น ยังทำให้เราตระหนักได้ว่า ชีวิตของเรานั้นไม่แน่นอน ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ สุดท้ายตายไป ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้าแค่ไหนก็ต้องมานอนในกล่องแคบ ๆ ใบนี้ ไม่มีอะไรเอาติดตัวไปได้สักอย่าง อย่างที่เราได้เห็นข่าวน่าเศร้าทุกวันนี้ เกี่ยวกับการตายของผู้ป่วยโควิด ที่ตายแล้วต้องเผาศพเลย ไม่สามารถนำมาทำพิธีอะไรได้
บังสกุล เป็นชื่อเรียกผ้าที่พระภิกษุชักจากศพ หรือที่ทอดไว้ด้วยสายสิญจน์หรือผ้าภูษาโยงหน้าศพ เป็นพิธีกรรมเสริมดวงอย่างหนึ่ง ด้วยการปลงกรรมฐานว่า ผ้าบังสกุล และเรียกการชักผ้าของพระสงฆ์หน้าศพว่า การชักบังสุกุล
1. เพื่อให้ภิกษุสามารถนำผ้าห่อศพมาใช้ทำจีวรได้อย่างถูกต้อง เพราะเป็นผ้าที่ไม่มีเจ้าของ
2. เพื่อให้ภิกษุ และญาติผู้วายชนพึงพิจารณาความไม่เที่ยงของสังขาร เข้าใจในความเป็นธรรมชาติ
3. เพื่อถวายผ้าบังสุกุลให้กับพระสงฆ์
มีทั้งหมด 23 ชนิด ได้แก่ ผ้าโสสานิกะ (ผ้าที่ถูกทิ้งไว้ในป่าช้า) ผ้าปาปณิกะ (ผ้าที่ถูกทิ้งไว้บริเวณทางเข้าตลาด) ผ้ารถิกะ (ผ้าที่ถูกทิ้งไว้ตามตรอกซอย) ผ้าสังการโจฬกะ (ผ้าที่ถูกทิ้งไว้ตามกองขยะ) เป็นต้น
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก MThai
สถานที่ทำบุญ โลงศพ นอนโลงศพ
แฟนคลับ Haihuayonline คนไหนที่รู้สึกไม่สบายใจในช่วงนี้และอยากหาสถานที่ยอดฮิต ทำบุญโลงศพดู ก็สามารถเข้าไปใช้บริการทำบุญนอนโลงศพได้ตามวัดต่าง ๆ ที่เราลิสต์มาให้ด้านล้างนี้เลย
- วัดตะเคียน ตั้งอยู่ที่ 86 ถนน ทางหลวงชนบท นนทบุรี 3085 ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 1113
- วัดสว่างอารมณ์ มีอุโบสถและสถาปัตยกรรม ตั้งอยู่ที่ 111 หมู่ที่ 4 ถนน เพชรเกษม ตำบล ขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี นครปฐม 73120
- วัดประสิทธิเวช ตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ตำบลบางปรากฏ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
สรุปส่งท้าย
ถึงการนอน โลงศพ เพื่อสะเดาะห์เคราะห์ต่อดวงชะตา จะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจและโล่งใจขึ้นมาได้เปลาะหนึ่งก็จริง แต่ในสถานการณ์ที่โควิด – 19 แพร่ระบาดแบบนี้ การสะเดาะเคราะห์ด้วยการนอนโลงศพนั้นดูจะไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว เพราะทุกพื้นที่มีแต่ผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ที่รอการรักษา บางคนก็ถึงขั้นรอความตาย
สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้กลับเป็นความรับผิดชอบภาครัฐที่ต้องเร่งเข้ามาจัดการให้ตรงจุด หยุดใช้วัคซีนกันตาย แล้วเร่งนำเข้าวัคซีนคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับของชาวโลกเสียที มิเช่นนั้นโลงศพเป็นหมื่นแสนล้านหลังที่เคยบริจาคไปก็คงจะไม่พอบรรจุศพของประชาชนที่ถูกรัฐฆ่าทางอ้อมเข้าสักวัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ฝันเห็นงานศพ ลางร้ายอันตรายถึงชีวิต ? แต่จะตายจริงหรือต้องไปดู
- อาถรรพ์แม่น้ำคงคา อ่างอาบน้ำศักสิทธิ์ ของชาวอินเดีย
- สวดเถอะ!!! ถ้าอยากให้ชีวิตดี รวม 10 คาถา ที่ควรสวดทุกวัน
- 5 สถานที่สรงน้ำพระ 2564 ในกรุงเทพฯ ช่วยให้มีโชคลาภ ต้อนรับสงกรานต์นี้!
- เสริมดวงวันสงกรานต์ 5 เคล็ดลับ ทำแล้วชีวิตราบรื่น มีโชคลาภตลอดปี!