ถ้าของมันดี 20 ล้านก็ควักได้! ทราบมั้ยว่า พระสมเด็จวัดระฆัง เป็นหนึ่งในของขลังที่แพงที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ พระสมเด็จวัดระฆังแท้ ๆ ตอนนี้ถือว่าหาได้ยากมาก เพราะปัจจุบันในตลาดมีพระปลอมอยู่เกลื่อนไปหมด และมีรุ่นแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งนี้คนวงการพระเขารู้กันดีว่า ราคาของพระสมเด็จวัดระฆังแท้นั้น 5000 บาทไม่ต้องเสียเวลาส่องให้เมื่อยตา เพราะราคาของจริงมันแตะ 8 หลักไปแล้ว ณ เดี๋ยวนี้
สารบัญ
พระสมเด็จวัดระฆัง คืออะไร
ใครที่อยู่วงการพระมานานคงเคยได้ยินมาบ้างว่า “พระสมเด็จวัดระฆัง” เป็นสุดยอดพระเครื่องในตำนานของ “สมเด็จพระพุฒาจารย์” (โต พรหมรังสี ) ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 และอยู่ยงคงกระพันข้ามกาลเวลามาหลายแผ่นดิน จนปัจจุบันกลายเป็น พระเครื่องสุดขลัง ที่เซียนพระหาจับได้ยากที่สุด และของแท้ก็ล้วนผ่านมือไปสู่มหาเศรษฐีเท่านั้น คนบ้าน ๆ ทั่วไปไม่มีบุญบารมีพอที่จะได้จับอย่างแน่นอน
เกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทยผู้เป็นที่เลื่อมใสของทั้งพระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน ท่านได้รับขนานนามว่า "หลวงปู่โต" "สมเด็จโต" หรือ "สมเด็จวัดระฆัง" ซึ่งท่านเคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ในสมัยรัชกาลที่ 4-5 นั่นเอง
สาเหตุที่คนไทยศรัทธาสมเด็จโตกันก็เพราะว่า ท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้รู้คาถาอาคมมากมาย เป็นผู้ให้คำสอนแก่พุทธศาสนิกชนรุ่นหลังเอาไว้มากมาย และยังเป็นต้นตำรับคาถาชินบัญชร ที่สวดแล้วช่วยทำให้หายป่วย แคล้วคลาดปลอดภัย และมีโชคลาภเงินทองค้าขายรุ่งเรืองอีกด้วย
อยากรวยอยากถูกหวยลาว หวยฮานอย หวยรัฐบาล ฯลฯ สามารถเดินทางไปไหว้ได้ที่ "วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร" หรือสามารถไปล่องเรือไหว้พระ 9 วัด ที่กรุงเทพฯ ก็ได้เช่นกันมีวัดมากมายหลายแห่งที่ศักดิ์สิทธิ์ และดลบันดาลโชคลาภให้เราได้ หรือจะสวดมนต์แล้วระลึกถึงหลวงปู่โตที่บ้านก็ได้เช่นกัน
กำเนิดพระสมเด็จวัดระฆัง
หลังจากที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ได้บวชอยู่หลายพรรษา ท่านก็ได้ชำนาญวิชาการปลุกเสกพระเครื่อง โดยเริ่มสร้างพระสมเด็จวัดระฆังครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2368 ซึ่งประวัติพระสมเด็จวัดระฆัง ถูกบันทึกเอาไว้ว่ามีด้วยกันทั้งหมด 3 ยุค ได้แก่…
- ยุคต้น (พ.ศ. 2368 – 2390) – เป็นยุคแรกเริ่มที่สมเด็จโตได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังในสมัยรัชกาลที่ 3
- ยุคกลาง (พ.ศ. 2399 – 2411) – เป็นยุคที่สมเด็จโตปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆังในสมัยรัชกาลที่ 4
- ยุคปลาย (พ.ศ. 2412 – 2414) – เป็นยุคสุดท้ายที่มีการปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆังโดยสมเด็จโต โดยสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5
เหตุการณ์สำคัญในการปลุกเสก
กล่าวกันว่าจะสร้างพระสมเด็จวัดระฆังในแต่ละครั้งนั้น ล้วนต้องเป็นฤกษ์งามยามดีและวันมหามงคลทั้งสิ้น โดยทั้ง 3 ยุคมีเหตุการณ์สำคัญในการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังดังนี้…
ยุคต้น :
- พ.ศ. 2348 – เป็นปีที่ระบุสร้างพระสมเด็จวัดระฆังขึ้นครั้งแรก โดยเป็นของที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์ของท่านเป็น “พระครูโต”
- พ.ศ. 2386 – เป็นช่วงที่ปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆังขึ้นเนื่องในโอกาสเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระราชปัญญาภรณ์”
- พ.ศ. 2390 – เป็นปีที่สร้างพระเครื่องขึ้นในงานบุญครบรอบ 60 ปีของ “พระเทพกวีศรีวิสุทธินายก” โดยสร้างเป็นพิมพ์ใหญ่ ไม่มีเส้นกรอบกระจกหรือเส้นบังคับพิมพ์ รวมทั้งยังสร้างหลายพิมพ์ที่เป็นพระเนื้อขาวแก่ปูนอีกด้วย
ยุคกลาง :
- พ.ศ. 2399 – เป็นปีที่สมเด็จโตสร้างพระสมเด็จวัดระฆังให้โยมพระบิดามารดาเพื่อแทนคุณ หลังจากดำรงสมณศักดิ์เป็น “พระธรรมกิติโสภณ” โดยได้สร้างเป็นพิมพ์ปรกโพธิ์ ที่หายากมากในตอนนี้
- พ.ศ. 2407 – เป็นปีสำคัญที่ท่านสร้างพระเครื่องเพื่อเป็นที่ระลึกหลังเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี” โดยได้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ที่เลื่องลือและมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท
ยุคปลาย :
- พ.ศ. 2414 – เป็นปีสุดท้ายที่ระบุว่าได้มีการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ แบบลงรักปิดทอง เพื่อถวายแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ลักษณะเด่นของพระสมเด็จวัดระฆัง
สุดยอดพระเครื่องของสมเด็จโต นอกจากจะสร้างในโอกาสมงคลเท่านั้นแล้ว ยังกล่าวได้ว่าเป็นพระเครื่องที่เปี่ยมไปด้วยพุทธศิลป์อันวิจิตรงดงามด้วย โดยท่านได้ต้นแบบพระเครื่องมาจากพระประธานของ “วัดระฆัง” และได้สร้างโดยดัดแปลงแบบพุทธศิลป์มาจากพระพุทธรูปในหลายสมัยอย่างชาญฉลาด เช่น…
- พระพิมพ์ทรงเจดีย์ ได้ถอดแบบมาจากสมัยเชียงแสน
- พระพิมพ์ใหญ่ทรงประธาน ได้ดัดแปลงมาจากศิลปะสมัยสุโขทัย
- พระสมเด็จวัดระฆังทรงหูยานอกร่อง ได้แรงบันดาลใจมาจากพุทธศิลปะสมัยอู่ทอง
นอกจากนั้นเอกลักษณ์ของพระสมเด็จวัดระฆังที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมชิ้นฝัก ก็ยังได้ต้นแบบมาจากพระอาจารย์ของท่าน “สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน” ด้วย โดยในยุคแรก ๆ นั้นพิมพ์ไม่ค่อยสวยมากเท่าไหร่นัก เพราะเป็นฝีมือของช่างชาวบ้าน จะแตกต่างกับยุคกลางที่มีช่างสิบหมู่เป็นผู้สร้างถวาย จึงจะเห็นได้ว่าพระเครื่องในแต่ละยุคก็รูปลักษณ์ต่างกัน
พระสมเด็จวัดระฆัง 5 พิมพ์ยอดนิยม
เมื่อเข้าใจความสำคัญของพระสมเด็จวัดระฆังกันไปแล้ว ตาม ให้หวยออนไลน์ ไปดูกันเลยว่า สมเด็จวัดระฆังทุกพิมพ์ ที่เซียนพระเขาแย่งชิงกันมีพิมพ์อะไรบ้างในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละพิมพ์นั้นถือเป็นพิมพ์หายากและมีราคาหลักแสนหลักล้านเลย ณ ตอนนี้
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นดั้งเดิมที่หายากมาก “พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่” ในยุคแรก สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2368 –2390 ถือเป็นรุ่นแรก ๆ ที่สร้างและมีเซียนพระแย่งกันครอบครองมากมาย
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เจดีย์
"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เจดีย์" เป็นรุ่นที่สังเกตได้ว่าจะเห็นเจดีย์ข้างหลังชัดมาก จึงเรียกว่ามีพิมพ์เจดีย์นั่นเอง ลักษณะเด่นจะเห็นขอบรอบพระพุทธรูปชัดเจนสวยงาม สามารถหาชมได้ยากแล้วปัจจุบัน แต่ก็มีของปลอมด้วยเช่นกันต้องดูให้ดี ๆ
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม
รุ่นนี้เอกลักษณ์อยู่ที่ อกร่อง-หูยาน-ฐานแซม-สอบล่าง (ล่างแคบ) -บานบน เซียนพระเขาเข้าใจกันและเป็นรุ่นที่ไม่ได้หาบูชาง่าย ๆ จุดเด่นคือมีเส้นแซมที่ใต้องค์พระกับฐานชั้นแรกบนสุด และระหว่างฐานชั้นบนสุดกับฐานสิงห์ชั้นกลางด้วย จึงเรียกว่ารุ่น “สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม” นั่นเอง
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูม
รุ่นนี้หาชมได้ยากในปัจจุบันเพราะมีจำนวนน้อย จุดเด่นมีผิวพรรณขององค์พระเปิดทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำให้ดูใหม่ ดูทันสมัย นอกจากนั้นยังมี เกศพุ่ม หน้าผากกว้าง คางแคบ หูประบ่าอีกด้วย
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เส้นด้าย
สำหรับ “สมเด็จวัดระฆังพิมพ์เส้นด้าย” สามารถดูเนื้อแท้ง่าย ๆ โดยผิวเป็นคลื่นไม่เรียบตึง มีลักษณะสวยงาม ดูเนื้อหยาบละเอียดกว่ารุ่นอื่น ๆ จึงเป็นเอกลักษณ์ที่เซียนพระชอบ
พุทธคุณพระสมเด็จวัดระฆัง
สาเหตุที่พระสมเด็จวัดระฆังทุกรุ่นราคาแตะ 8 หลัก ก็เพราะอิทธิฤทธิ์อันแกร่งกล้าของพระเครื่องรุ่นนี้ โดยสมเด็จโตได้ผสมเนื้อยาวิเศษหลายตัวและผ่านกรรมวิธีทำผงวิเศษอันยุ่งยาก ที่ต้องใช้เวลานานและต้องใช้คาถาอาคมหลายบท ซึ่งในพระเครื่องรุ่นนี้ผสมไปด้วยผงวิเศษ 5 ประการ
นอกจากนั้นพระสมเด็จวัดระฆังยังผสมดินโป่ง 7 โป่ง ดินท่า 7 ท่า ดินเสาหลักเมือง 7 หลักเมือง และยังมีธาตุศักดิ์สิทธิ์อีกหลายประการไม่ว่าจะเป็นขี้ไคลเสมา ยอดรกซ้อน ชัยพฤกษ์ พลูสองหาง ฯลฯ และยังต้องนำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกรวมกันเพื่อปลุกเสกและบริกรรมคาถาให้สำเร็จด้วย ซึ่งรวมแล้วมีพุทธานุภาพดังนี้…
- ช่วยด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มหาอุด
- มีฤทธิ์ช่วยถอนคุณไสย และป้องกันภูตผีปีศาจ
- ช่วยด้านเมตตามหานิยม ผู้ใหญ่รักและเอ็นดู
- ป้องกันสัตว์ที่มีเขี้ยว เล็บ งา
- มีพลังในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
- ป้องกันอุบัติภัยอันตรายทั้งปวง
- เรียกโชคลาภค้าขาย และความมั่งคั่งร่ำรวย
วิธีบูชาพระสมเด็จวัดระฆัง
- ก่อนนำพระสมเด็จวัดระฆังมาห้อยคอทุกครั้งให้อาราธนาด้วยคาถาดังต่อไปนี้ “(นะโม 3 จบ) ชินะปัญชะระปะริตัง มังรักขะตุสัพพะทา” เป็นคาถาชินบัญชรบทย่อให้ท่องทั้งหมด 10 จบ หรือจะท่องคาถาชินบัญชร 1 จบก็ได้
- หลังเอาพระห้อยคอให้พนมมือแล้วท่องคาถา “โอมมะศรี มะศรี พรหมรังสี นามะเตโช มหาสมโณ มหาปัญโญ มหาลาโภ มหายะโส สัพพะโสตถี ภะวันตุเม”
- หลังจากท่องคาถาเสร็จแล้ว ให้ต่อบริกรรมคาถาต่อดังนี้ “ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธนะกาโม ละเภธะนัง อัตถิ กาเย กายะยายะ เทวานัง ปิยะยัง สุตวา" และปิดท้ายด้วยคาถา “อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณมรณังสุขัง อรหังสุคโต นะโมพุทธายะ” จากนั้นก็กล่าวสาธุได้ ทำเช่นนี้ทุกวันแล้วจะช่วยหนุนนำความสุขความเจริญมาให้
สรุป
ถ้าใครนับถือ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี” ก็คงจะทราบกันดีว่า 20 ล้านนั้นถือว่าคุ้มค่าสำหรับการเช่า พระสมเด็จวัดระฆัง ของท่านมาบูชา เพราะพระเครื่องต้นตำรับของท่านนั้นหาได้ยากมากแล้วในปัจจุบัน มีแต่ของปลอมเกรดเอเต็มไปหมด และทุกรุ่นที่กล่าวมาข้างต้นก็ถือเป็นรุ่นที่หายากแล้ว ดังนั้นปู่ย่าใครที่มีไว้ครอบครองถือว่าเป็นบุญมาก
เซียนพระบางคนถึงขั้นกล่าวว่า ถ้าครั้งหนึ่งได้มีโอกาสห้อยพระสมเด็จวัดระฆังของแท้ ก็นับเป็นบุญที่สุดของชีวิตแล้ว เพราะพระเครื่องของท่านปลุกเสกขึ้นจากมวลสารวิเศษหลายประการ อีกทั้งยังผ่านการทำพิธีที่ยาวนาน ลงยันต์ ลงรักปิดทอง หลายขั้นตอนจนกว่าจะออกมาเป็นพระเครื่องหนึ่งองค์ เช่นนั้นแล้วถ้าใครมีไว้จงเก็บรักษาให้ดี ๆ โชคลาภเงินทองจะสถิตอยู่กับเราตลอดไป
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก thairath
บทความแนะนำ